ฟันแท้ของลูกจะผุง่าย หากปล่อยให้เด็กฟันน้ำนมผุ
ของกระบวนการเติบโตของฟันในเด็ก โดยเฉพาะการเติบโตของฟันน้ำนมและฟันแท้
กระบวนการเติบโตของฟันในเด็ก แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะฟันน้ำนม
ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือนและจะหลุดออกเมื่อเด็กอายุประมาณ 12 ปี ฟันน้ำนมมีทั้งหมด 20 ซี่ แบ่งเป็นฟันหน้า 8 ซี่ ฟันกรามซี่เล็ก 4 ซี่ และฟันกรามซี่ใหญ่ 8 ซี่
การขึ้นของฟันน้ำนมมักเริ่มจากฟันหน้าล่างแล้วขึ้นไปที่ฟันหน้าบน ทยอยขึ้นจนมีฟันน้ำนมครบ 20 ซี่ เมื่ออายุประมาณ 30 เดือน
ระยะฟันแท้
ฟันแท้เริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 ปีและจะขึ้นจนครบเมื่ออายุประมาณ 25 ปี ฟันแท้มีทั้งหมด 32 ซี่ แบ่งเป็นฟันกรามซี่ใหญ่ 12 ซี่ ฟันกรามซี่เล็ก 8 ซี่ ฟันหน้า 4 ซี่ และฟันเขี้ยว 4 ซี่
การขึ้นของฟันแท้มักเริ่มจากฟันกรามซี่ใหญ่บนและล่าง แล้วค่อยๆ ขึ้นเรียงลำดับจนครบ 32 ซี่ เมื่ออายุประมาณ 25 ปี
การขึ้นของฟันในเด็กอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- เหงือกบวมแดง
- เด็กอาจงอแงหรือร้องไห้
- เด็กอาจมีอาการไข้ต่ำ
- เด็กอาจน้ำลายไหลมาก
- เด็กอาจอยากกัดของแข็ง
- หากเด็กมีอาการเหล่านี้ พ่อแม่ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจดูว่าฟันขึ้นปกติหรือไม่
ผลกระทบของเด็กฟันน้ำนมผุ ต่อการเติบโตของฟันแท้ในอนาคต
หากปล่อยให้เด็กฟันน้ำนมผุ สามารถส่งผลกระทบต่อการเติบโตของฟันแท้ในเด็กได้หลายประการ ดังนี้
- ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่ง
- ฟันแท้ผุได้ง่าย
- ฟันแท้เปราะบาง
- ฟันแท้ไม่แข็งแรง
- ฟันแท้อาจหลุดเร็วกว่าปกติการผุฟันน้ำนมเกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียในปากสร้างคราบจุลินทรีย์ คราบจุลินทรีย์เป็นสารเหนียวที่เกาะอยู่บนฟัน เมื่อคราบจุลินทรีย์สะสมเป็นเวลานาน แบคทีเรียจะผลิตกรดที่กัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้เกิดฟันผุ
การผุฟันน้ำนมสามารถรักษาได้โดยการอุดฟันหรือถอนฟัน หากไม่รักษาฟันผุ อาจลุกลามไปยังเนื้อเยื่อฟันชั้นในและอาจทำให้ฟันแท้ผุได้
การดูแลฟันให้เหมาะสมเพื่อให้ฟันแท้ของเด็กเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง
การดูแลฟันให้เหมาะสมเพื่อให้ฟันแท้ของเด็กเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง ทำได้ดังนี้
แปรงฟันให้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ แปรงฟันให้ทั่วทั้งซี่ฟัน ด้านหน้า ด้านหลัง และด้านบน แปรงฟันให้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 นาที
ใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง เพื่อขจัดเศษอาหารและแบคทีเรียที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้
หลีกเลี่ยงการกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป น้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียในปาก เมื่อแบคทีเรียย่อยสลายน้ำตาลจะผลิตกรดที่กัดกร่อนฟัน ทำให้เกิดฟันผุ
พาลูกไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟันและรับการรักษาฟันผุหากมีการดูแลฟันอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เด็กมีฟันที่แข็งแรงและสวยงาม ฟันที่แข็งแรงจะช่วยให้เด็กรับประทานอาหารบดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟันที่แข็งแรงยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเด็กอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลฟันในเด็กและการเติบโตของฟันแท้ในเด็ก
ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?
ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือนและจะหลุดออกเมื่อเด็กอายุประมาณ 12 ปี
ฟันแท้เริ่มขึ้นเมื่อไหร่?
ฟันแท้เริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 ปีและจะขึ้นจนครบเมื่ออายุประมาณ 25 ปี
ฟันแท้มีกี่ซี่?
ฟันแท้มีทั้งหมด 32 ซี่ แบ่งเป็นฟันกรามซี่ใหญ่ 12 ซี่ ฟันกรามซี่เล็ก 8 ซี่ ฟันหน้า 4 ซี่ และฟันเขี้ยว 4 ซี่
ฟันน้ำนมมีความสำคัญอย่างไร?
ฟันน้ำนมมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กหลายประการ ดังนี้
- ช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร
- ช่วยในการออกเสียง
- ช่วยในการเสริมสร้างบุคลิกภาพ
- ช่วยในการสร้างความมั่นใจ
- ช่วยในการป้องกันการเกิดฟันผุ
- พ่อแม่ควรดูแลฟันน้ำนมของลูกอย่างไร?
- พ่อแม่ควรดูแลฟันน้ำนมของลูกให้สะอาดและแข็งแรง โดยแปรงฟันให้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และพาลูกไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
ฟันน้ำนมผุจะส่งผลต่อฟันแท้อย่างไร?
ฟันน้ำนมผุสามารถส่งผลต่อฟันแท้ได้หลายประการ ดังนี้
- ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่ง
- ฟันแท้ผุได้ง่าย
- ฟันแท้เปราะบาง
- ฟันแท้ไม่แข็งแรง
- ฟันแท้อาจหลุดเร็วกว่าปกติ
พ่อแม่ควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันการผุฟันน้ำนม?
พ่อแม่ควรดูแลฟันน้ำนมของลูกให้สะอาดและแข็งแรง โดยแปรงฟันให้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และพาลูกไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
พ่อแม่ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เมื่อไหร่?
พ่อแม่ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์ครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 1 ปี และควรพาไปพบเป็นประจำทุก 6 เดือน
การดูแลฟันในเด็กเป็นเรื่องยากหรือไม่?
การดูแลฟันในเด็กไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
แปรงฟันให้อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
ใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง
หลีกเลี่ยงการกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป
พาลูกไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน